จับชายในหมู่บ้าน น้องชมพู่ อนาจารหลาน ตร.ย้ำคนละคดีกัน

จับชายในหมู่บ้าน น้องชมพู่ อนาจารหลาน ตร.ย้ำคนละคดีกัน

วันที่ 24 มิ.ย. ตำรวจชุดสืบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับชาย 1 คน ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับ น้องชมพู่ เด็กหญิง 3 ขวบที่หายตัวไปจากบ้านพักในอ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตในป่า ซึ่งชายคนดังกล่าวได้ก่อคดีทำอนาจารหลานสาววัย 5 ขวบ

พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รองผบช.ภ.4 กล่าวว่า 

เบื้องต้นยังไม่มีการออกหมายจับผู้ก่อเหตุคดีน้องชมพู่ เพราะเป็นคนละคดีกัน กรณีดังกล่าวเป็นการออกหมายจับชายคนหนึ่ง ทำอนาจารหลานสาววัย 5 ขวบ เป็นชาวบ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เป็นคนละคดีกับคนร้ายทำร้ายน้องชมพู่

ส่วนแนวทางการสืบสวน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เชื่อว่ายังพอมีทางอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการติดตามหาพยานหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป โดยทางชุดสืบสวนคดีคลายคดีได้สอบปากคำชายคนดังกล่าวเกี่ยวกับคดีน้องชมพู่แล้ว แต่ได้ให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ

จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 30 ปี  แฟนสาวของร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รองสว.(สืบสวน) สน.วังทองหลาง นอนเสียชีวิตบนโซฟาในชุดนอน ถูกกระสุนขนาด .45 ยิงปลิดชีพ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพัก ย่านบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดยร.ต.อ.ทรงกลด ซึ่งอยู่ในบ้านเกิดเหตุเพียงผู้เดียว ให้การว่าแฟนสาวใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย โดยอาวุธที่ใช้เป็นปืนของนายตำรวจหนุ่ม

ต่อมา วันที่ 20 มิ.ย. สน.ลาดพร้าวได้ส่งตัวร.ต.อ.ทรงกลดไปตรวจหาร่องรอยการต่อสู้ คราบเขม่าปืน สารเสพติด และแอลกอฮอล์ภายในร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งผลการตรวจคราบเขม่าดินปืนพบ คราบเขม่าดินปืนที่ที่มือ ทั้งของร.ต.อ.ทรงกลด และน.ส.พิมชฎาพร

กระทั่งวันที่ 22 มิ.ย.ระหว่างการสอบสวน ร.ต.อ.ทรงกลดให้การสารภาพว่า วันเกิดเหตุตนดื่มเบียร์ เมื่อ น.ส. พิมชฎาพร กลับมาจึงขอหลับนอนด้วย แต่ฝ่ายหญิงปฏิเสธ และลงมานอนที่โซฟาห้องหลับแขก จากนั้นจึงมีปากเสียกัน ตนชักปืนออกมาขู่ ก่อนจะเกิดการยื้อแย่งจนปืนลั่นใส่ น.ส.พมชฎาพร เสียชีวิต ระบุตนไม่ได้ตั้งใจยิน

ล่าสุดวันนี้ ( 23 มิ.ย.) แม่พร้อมทนายความของ ร.ต.อ.ทรงกลด ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวกับทางศาล ใช้หลักทรัพย์เงินสด 500,000 บาท ขณะนี้กำลังรอศาลพิจารณา ซึ่งก่อนหน้านี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุว่า หากผู้ต้องหาขอประกันตัว พนักงานสอบสวนจะไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และไม่มีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงต่อพยาน

คืบหน้าเวลาประมาณ 15.00 น. ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว ไม่มีกำหนดเงื่อนไข เนื่องจากผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวน ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่มีการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน บวกกับพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว

ร.ต.อ.หนุ่มสารภาพแล้ว ชักปืนขู่ ปืนลั่นใส่แฟนสาว แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 30 ปี  แฟนสาวของร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รองสว.(สืบสวน) สน.วังทองหลาง นอนเสียชีวิตบนโซฟาในชุดนอน ถูกกระสุนขนาด .45 ยิงปลิดชีพ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพัก ย่านบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดยร.ต.อ.ทรงกลด ซึ่งอยู่ในบ้านเกิดเหตุเพียงผู้เดียว ให้การว่าแฟนสาวใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย โดยอาวุธที่ใช้เป็นปืนของนายตำรวจหนุ่ม

ต่อมา วันที่ 20 มิ.ย. สน.ลาดพร้าวได้ส่งตัวร.ต.อ.ทรงกลดไปตรวจหาร่องรอยการต่อสู้ คราบเขม่าปืน สารเสพติด และแอลกอฮอล์ภายในร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งผลการตรวจคราบเขม่าดินปืนพบ คราบเขม่าดินปืนที่ที่มือ ทั้งของร.ต.อ.ทรงกลด และน.ส.พิมชฎาพร

ล่าสุดวันนี้ (22 มิ.ย.) ระหว่างการสอบสวน ร.ต.อ.ทรงกลดให้การสารภาพว่า วันเกิดเหตุตนดื่มเบียร์ เมื่อ น.ส. พิมชฎาพร กลับมาจึงขอหลับนอนด้วย แต่ฝ่ายหญิงปฏิเสธ และลงมานอนที่โซฟาห้องหลับแขก จากนั้นจึงมีปากเสียกัน ตนชักปืนออกมาขู่ ก่อนจะเกิดการยื้อแย่งจนปืนลั่นใส่ น.ส.พมชฎาพร เสียชีวิต

จากกรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ซึ่งผ่านมาเป็นเวลาประมาณเดือนกว่าแล้ว แต่ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ทางตำรวจได้เร่งสืบสวนหาสาเหตุ และตรวจหลักฐานในที่เกิดเหตุ และได้สืบสวนลุงพล ต่อมาก็ได้สืบสวน กาย ซึ่งเป็นอาแท้ๆ ของน้องชมพู่ เพราะกายเองได้มาที่บ้านของน้องชมพู่ในวันเกิดเหตุ ชาวบ้านจึงสงสัยว่า กายมาขอเงินพ่อน้องชมพู่แล้วไม่ได้ จึงไปทำร้ายน้องชมพู่หรือไม่

ล่าสุดวันที่ 18 มิ.ย. นายอนามัย พ่อของน้องชมพู่ ก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนีเว่า น้องชายมาขอเงินจริง แต่ไม่ได้ทะเลาะกัน กายมาขอเงินแม่ 100-200 บาท และเรื่องเกิดตั้งแต่ปลายปี 62 แล้ว ขอเสร็จก็กลับไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนทางด้านตาชาญ ตาของน้องชมพู่ กล่าวว่ามีปมขัดแย้งในครอบครัวจริง คือ นายนรินทร์ น้าชายของน้องชมพู่ ขัดแย้งกับ ลุงพล จากการเพาะขายด้วงมะพร้าว เมื่อปี 62

เนื่องจากช่วงนั้นเริ่มขายด้วงไม่ได้ ลูกชายขอถอนตัว ขอเงินคืน เลยมีเรื่องทะเลาะกัน แต่ไม่ถึงขั้นตบตีลงไม้ลงมือกัน มีพลิกโต๊ะใส่ลูกชาย พ่อก็เลยไล่ลูกสาวกับลูกเขยออกไป แล้วบอกว่ามีอะไรค่อยพูดกันทีหลัง ต่างฝ่ายอารมณ์ไม่ดี เขาก็โกรธกับพ่อตาตอนนั้น แต่จากนั้นก็ไม่มีเรื่องอะไร และเป็นไปไม่ได้ที่ลุงพลจะมาฆ่าหลาน ส่วนเรื่องปมขัดแย้งที่ดินแบ่งมรดกให้ เรื่องที่ดินก็จบไปแล้ว

แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร